ครับ! การคัดกรองหุ้นตามสไตล์การลงทุนต่างๆ เป็นวิธีที่ช่วยให้เราได้หุ้นที่ตรงกับกลยุทธ์การลงทุนของเรา มาดูกันว่าแต่ละสไตล์มีวิธีคัดกรองอย่างไร

  1. Value Investing (การลงทุนแบบเน้นคุณค่า) เกณฑ์การคัดกรอง:
    • P/E Ratio ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม (เช่น < 15)
    • P/BV Ratio < 1.5
    • Dividend Yield > 3%
    • ROE > 15%
    • D/E Ratio < 1
    • มีกำไรต่อเนื่องอย่างน้อย 5 ปี
    เหตุผล: เน้นหาหุ้นที่มีราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง มีฐานะการเงินแข็งแกร่ง และมีประวัติการทำกำไรที่ดี
  2. Growth Investing (การลงทุนแบบเน้นการเติบโต) เกณฑ์การคัดกรอง:
    • อัตราการเติบโตของรายได้ > 15% ต่อปี
    • อัตราการเติบโตของกำไร > 20% ต่อปี
    • PEG Ratio < 1
    • ROE > 20%
    • อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน < 0.5
    • อัตราการเติบโตของกระแสเงินสด > 15%
    เหตุผล: มองหาบริษัทที่มีการเติบโตสูง มีความสามารถในการทำกำไร และมีศักยภาพในการเติบโตในอนาคต
  3. Dividend Investing (การลงทุนแบบเน้นเงินปันผล) เกณฑ์การคัดกรอง:
    • Dividend Yield > 4%
    • อัตราการจ่ายเงินปันผล (Payout Ratio) < 70%
    • ประวัติการจ่ายปันผลต่อเนื่องอย่างน้อย 5 ปี
    • อัตราการเติบโตของเงินปันผล > 5% ต่อปี
    • D/E Ratio < 0.5
    • อัตราส่วนความสามารถในการจ่ายดอกเบี้ย (Interest Coverage Ratio) > 5
    เหตุผล: เน้นหาบริษัทที่จ่ายเงินปันผลสูงและสม่ำเสมอ มีฐานะการเงินมั่นคง และมีความสามารถในการจ่ายปันผลอย่างต่อเนื่อง
  4. GARP (Growth at a Reasonable Price) เกณฑ์การคัดกรอง:
    • PEG Ratio < 1.5
    • อัตราการเติบโตของกำไร > 10% ต่อปี
    • P/E Ratio < 20
    • ROE > 15%
    • D/E Ratio < 1
    เหตุผล: เป็นการผสมผสานระหว่าง Value และ Growth Investing โดยมองหาหุ้นที่มีการเติบโตดีในราคาที่สมเหตุสมผล
  5. Momentum Investing (การลงทุนตามกระแส) เกณฑ์การคัดกรอง:
    • ผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือน > ค่าเฉลี่ยตลาด
    • ผลตอบแทนย้อนหลัง 12 เดือน > ค่าเฉลี่ยตลาด
    • ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย 3 เดือนล่าสุด > ค่าเฉลี่ย 1 ปี
    • ราคาปัจจุบัน > ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน
    เหตุผล: เน้นหาหุ้นที่มีแนวโน้มราคาขาขึ้นและมีโมเมนตัมที่ดี
  6. Contrarian Investing (การลงทุนแบบตรงข้ามตลาด) เกณฑ์การคัดกรอง:
    • P/E Ratio ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลัง > 20%
    • ราคาปัจจุบันต่ำกว่าราคาสูงสุดในรอบ 52 สัปดาห์ > 30%
    • อัตราส่วนการถือครองของนักลงทุนสถาบัน < ค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม
    • มีการประกาศข่าวเชิงลบในช่วงที่ผ่านมา
    เหตุผล: มองหาหุ้นที่ถูกตลาดมองข้ามหรือไม่เป็นที่นิยม แต่มีพื้นฐานที่แข็งแกร่ง

เคล็ดลับในการคัดกรองตามสไตล์:

  1. ปรับเกณฑ์ให้เหมาะกับสภาวะตลาดและเศรษฐกิจ
  2. ใช้หลายๆ เกณฑ์ประกอบกัน ไม่ยึดติดกับเกณฑ์ใดเกณฑ์หนึ่ง
  3. พิจารณาลักษณะเฉพาะของแต่ละอุตสาหกรรม
  4. ทดสอบเกณฑ์กับข้อมูลในอดีตเพื่อดูประสิทธิภาพ
  5. ไม่ลืมวิเคราะห์ปัจจัยเชิงคุณภาพควบคู่ไปด้วย

จำไว้นะครับว่า การคัดกรองเป็นเพียงจุดเริ่มต้น คุณยังต้องวิเคราะห์เชิงลึกและใช้วิจารณญาณก่อนตัดสินใจลงทุนจริง

มีคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับการคัดกรองหุ้นตามสไตล์การลงทุนไหมครับ? หรืออยากให้อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับสไตล์การลงทุนแบบไหนเป็นพิเศษครับ?

By admin

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *