ครับ เข้าใจแล้วครับ ผมจะเขียนบทความสอนเกี่ยวกับแหล่งที่มาของรายได้ โดยเน้นให้เข้าใจง่าย เป็นกันเอง และสุภาพนะครับ เริ่มกันเลยครับ:
สวัสดีครับทุกคน วันนี้เราจะมาคุยกันเรื่องแหล่งที่มาของรายได้กันนะครับ โดยเฉพาะเรื่องรูปแบบรายได้แบบครั้งเดียวกับรายได้ต่อเนื่อง ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมากๆ สำหรับคนที่กำลังคิดจะเริ่มธุรกิจหรือกำลังมองหาวิธีสร้างรายได้เพิ่มครับ
ก่อนอื่น เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่า “รายได้แบบครั้งเดียว” กับ “รายได้ต่อเนื่อง” คืออะไร
รายได้แบบครั้งเดียว ก็คือเงินที่เราได้รับจากการขายสินค้าหรือบริการเพียงครั้งเดียว เช่น ถ้าเราขายเสื้อยืด 1 ตัว เราก็จะได้เงินจากการขายครั้งนั้นครั้งเดียว ถ้าลูกค้าอยากได้เสื้ออีก ก็ต้องซื้อใหม่
ส่วนรายได้ต่อเนื่อง คือเงินที่เราได้รับเป็นประจำ โดยที่เราไม่ต้องทำงานซ้ำๆ ทุกครั้ง ตัวอย่างเช่น การให้เช่าอพาร์ตเมนต์ เราจะได้ค่าเช่าทุกเดือนโดยที่เราไม่ต้องสร้างอพาร์ตเมนต์ใหม่ทุกครั้ง
ทีนี้ เรามาดูข้อดีข้อเสียของแต่ละแบบกันครับ:
รายได้แบบครั้งเดียว: ข้อดี: เราได้เงินเร็ว และรู้ทันทีว่าได้กำไรเท่าไหร่ ข้อเสีย: ต้องหาลูกค้าใหม่ตลอดเวลา ถ้าไม่ขายของใหม่ ก็ไม่มีรายได้
รายได้ต่อเนื่อง: ข้อดี: มีรายได้สม่ำเสมอ ไม่ต้องกังวลว่าเดือนหน้าจะมีเงินหรือเปล่า ข้อเสีย: อาจต้องใช้เวลานานกว่าจะเห็นผลกำไร และต้องลงทุนแรงงานหรือเงินทุนมากในช่วงแรก
ทั้งสองแบบมีข้อดีข้อเสียต่างกัน แต่ไม่ได้หมายความว่าเราต้องเลือกแบบใดแบบหนึ่งนะครับ ธุรกิจที่ดีมักจะผสมผสานทั้งสองแบบเข้าด้วยกัน
ตัวอย่างเช่น ร้านกาแฟ อาจมีรายได้แบบครั้งเดียวจากการขายกาแฟต่อแก้ว แต่ก็อาจมีรายได้ต่อเนื่องจากการขายบัตรสมาชิกรายเดือนที่ให้ส่วนลดพิเศษ
สุดท้ายนี้ ผมอยากให้ทุกคนลองคิดดูว่า ในชีวิตประจำวันของเรา มีอะไรบ้างที่เราจ่ายเงินแบบครั้งเดียว และอะไรที่เราจ่ายแบบต่อเนื่อง แล้วลองคิดต่อว่า ถ้าเราจะสร้างธุรกิจ เราจะสร้างรายได้แบบไหนดี หรือจะผสมผสานทั้งสองแบบยังไงดี
ถ้ามีข้อสงสัยอะไรเพิ่มเติม ก็ถามได้เลยนะครับ ยินดีตอบทุกคำถามครับ!
ใส่ความเห็น