สวัสดีครับเพื่อนๆ! วันนี้ผมจะมาแชร์การวิเคราะห์บริษัท Disney กันนะครับ
Disney เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ในวงการบันเทิงที่มีธุรกิจหลากหลาย ทั้งสื่อ สวนสนุก และสินค้าต่างๆ ล่าสุดผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2024 ของ Disney ออกมาน่าสนใจมากครับ รายได้รวมเพิ่มขึ้น 4% เป็น 23,155 ล้านดอลลาร์ และที่น่าตื่นเต้นคือพลิกจากขาดทุนมาเป็นกำไรสุทธิถึง 2,621 ล้านดอลลาร์เลยทีเดียว!
ปัจจัยสำคัญมาจากการเติบโตของบริการสตรีมมิ่งอย่าง Disney+ ที่มีผู้สมัครสมาชิกเพิ่มขึ้น 12% เป็น 118 ล้านคนแล้ว นอกจากนี้ธุรกิจสวนสนุกก็ฟื้นตัวได้ดีหลังจากที่เคยได้รับผลกระทบจากโควิด-19
แต่ก็ยังมีความท้าทายรออยู่นะครับ โดยเฉพาะการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดสตรีมมิ่ง และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป Disney ต้องปรับตัวต่อไปเพื่อรักษาความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมบันเทิงครับ
ใครเป็นแฟน Disney บ้างครับ? ชอบผลงานหรือบริการไหนของ Disney เป็นพิเศษ? มาแชร์กันได้ในคอมเมนต์เลยครับ!
#DisneyAnalysis #EntertainmentIndustry #BusinessUpdate
พันธมิตรหลัก
- บริษัทผลิตเนื้อหา
- ผู้ให้บริการเคเบิลและดาวเทียม
- ผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค
- พันธมิตรด้านเทคโนโลยี
กิจกรรมหลัก
- ผลิตและจัดจำหน่ายเนื้อหาความบันเทิง
- ดำเนินการสวนสนุกและรีสอร์ท
- พัฒนาและจำหน่ายสินค้าที่มีแบรนด์
- ให้บริการสตรีมมิ่ง
ทรัพยากรหลัก
- แบรนด์และทรัพย์สินทางปัญญา
- เครือข่ายสื่อ
- สวนสนุกและรีสอร์ท
- เทคโนโลยีสตรีมมิ่ง
คุณค่าที่นำเสนอ
- ความบันเทิงคุณภาพสูงสำหรับทุกเพศทุกวัย
- ประสบการณ์ที่น่าจดจำในสวนสนุก
- บริการสตรีมมิ่งที่หลากหลาย
- สินค้าที่มีแบรนด์คุณภาพสูง
ความสัมพันธ์กับลูกค้า
- โปรแกรมสมาชิก
- แอปพลิเคชันและแพลตฟอร์มดิจิทัล
- การสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดีย
- การบริการลูกค้า
ช่องทาง
- โรงภาพยนตร์
- สวนสนุกและรีสอร์ท
- ช่องทีวีและเคเบิล
- แพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง
- ร้านค้าปลีกและออนไลน์
กลุ่มลูกค้า
- ครอบครัว
- แฟนคลับ
- นักท่องเที่ยว
- ผู้ชมทั่วไป
โครงสร้างต้นทุน
- การผลิตเนื้อหา
- การดำเนินการสวนสนุกและรีสอร์ท
- การพัฒนาเทคโนโลยี
- การตลาดและการขาย
กระแสรายได้
- ค่าเข้าชมภาพยนตร์และสวนสนุก
- ค่าสมาชิกบริการสตรีมมิ่ง
- การขายสินค้า
- ค่าโฆษณา
- ค่าลิขสิทธิ์
จากข้อมูลในรายงานทางการเงิน สามารถวิเคราะห์ผลประกอบการของ Disney ได้ดังนี้:
- รายได้รวม ในไตรมาสที่ 3 ปี 2024 Disney มีรายได้รวม 23,155 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยหลักมาจาก:
- รายได้จากบริการสตรีมมิ่งที่เพิ่มขึ้น
- รายได้จากโฆษณาที่เพิ่มขึ้น
- กำไรสุทธิ Disney มีกำไรสุทธิ 2,621 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสนี้ เทียบกับขาดทุนสุทธิ 460 ล้านดอลลาร์ในช่วงเดียวกันของปีก่อน การเพิ่มขึ้นอย่างมากนี้มีสาเหตุหลักมาจาก:
- ผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของธุรกิจ Entertainment โดยเฉพาะบริการสตรีมมิ่ง
- การไม่มีค่าใช้จ่ายในการปรับโครงสร้างและด้อยค่าสินทรัพย์ในไตรมาสนี้ เทียบกับค่าใช้จ่ายสูงในปีก่อน
- ผลการดำเนินงานแยกตามกลุ่มธุรกิจ
- Entertainment: รายได้เพิ่มขึ้น 4% เป็น 10,580 ล้านดอลลาร์ กำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นเป็น 1,201 ล้านดอลลาร์ จาก 408 ล้านดอลลาร์ในปีก่อน
- Sports: รายได้เพิ่มขึ้น 5% เป็น 4,558 ล้านดอลลาร์ แต่กำไรจากการดำเนินงานลดลง 6% เป็น 802 ล้านดอลลาร์
- Experiences: รายได้เพิ่มขึ้น 2% เป็น 8,386 ล้านดอลลาร์ แต่กำไรจากการดำเนินงานลดลง 3% เป็น 2,222 ล้านดอลลาร์
- บริการสตรีมมิ่ง
- จำนวนผู้สมัครสมาชิก Disney+ เพิ่มขึ้น 12% เป็น 118.3 ล้านราย (ไม่รวม Disney+ Hotstar)
- รายได้เฉลี่ยต่อผู้ใช้งานของ Disney+ เพิ่มขึ้น 10% เป็น 7.22 ดอลลาร์ต่อเดือน
- ผลขาดทุนจากธุรกิจสตรีมมิ่งลดลงอย่างมาก จาก 505 ล้านดอลลาร์เป็น 19 ล้านดอลลาร์
- สถานะทางการเงิน
- เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด ณ 29 มิถุนายน 2024 อยู่ที่ 5,954 ล้านดอลลาร์
- หนี้สินรวมลดลงจาก 46,431 ล้านดอลลาร์เป็น 47,584 ล้านดอลลาร์
การวิเคราะห์ SWOT ของ Disney
จุดแข็ง (Strengths)
- แบรนด์ที่แข็งแกร่งและเป็นที่รู้จักทั่วโลก
- คลังเนื้อหาขนาดใหญ่และมีคุณภาพสูง
- ธุรกิจที่หลากหลายครอบคลุมทั้งสื่อ สวนสนุก และสินค้าอุปโภคบริโภค
- ฐานผู้ใช้บริการสตรีมมิ่งที่เติบโตอย่างรวดเร็ว
- ความสามารถในการสร้างรายได้จากทรัพย์สินทางปัญญาในหลากหลายช่องทาง
จุดอ่อน (Weaknesses)
- ต้นทุนในการผลิตเนื้อหาที่สูง
- การพึ่งพารายได้จากธุรกิจสวนสนุกและรีสอร์ทซึ่งอ่อนไหวต่อสภาวะเศรษฐกิจ
- ความท้าทายในการรักษาผู้ชมของช่องทีวีแบบดั้งเดิม
- การแข่งขันที่รุนแรงในตลาดบริการสตรีมมิ่ง
โอกาส (Opportunities)
- การขยายตัวของตลาดบริการสตรีมมิ่งทั่วโลก
- การพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น VR และ AR เพื่อสร้างประสบการณ์ความบันเทิงรูปแบบใหม่
- การขยายธุรกิจสวนสนุกและรีสอร์ทในตลาดเกิดใหม่
- การใช้ประโยชน์จากข้อมูลผู้ใช้บริการเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ
อุปสรรค (Threats)
- การแข่งขันที่รุนแรงจากบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ในตลาดสตรีมมิ่ง
- การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันไปบริโภคสื่อผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น
- ความเสี่ยงจากการระบาดของโรคหรือภัยธรรมชาติที่อาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจสวนสนุก
- กฎระเบียบและข้อบังคับที่เข้มงวดขึ้นในอุตสาหกรรมสื่อและความบันเทิง
10 สินค้า/บริการยอดนิยมของ Disney และคีย์เวิร์ดสำหรับค้นหารูปภาพ
- Disney+: บริการสตรีมมิ่งวิดีโอ
คีย์เวิร์ด: “Disney+ streaming service” - Magic Kingdom: สวนสนุกที่ Walt Disney World Resort
คีย์เวิร์ด: “Magic Kingdom Disney World” - Mickey Mouse: ตัวละครอันเป็นสัญลักษณ์ของ Disney
คีย์เวิร์ด: “Mickey Mouse Disney character” - Disney Cruise Line: เรือสำราญของ Disney
คีย์เวิร์ด: “Disney Cruise Line ship” - Star Wars: The Mandalorian: ซีรีส์ยอดนิยมบน Disney+
คีย์เวิร์ด: “The Mandalorian Star Wars series” - Frozen: แฟรนไชส์ภาพยนตร์แอนิเมชันที่ประสบความสำเร็จ
คีย์เวิร์ด: “Frozen Disney movie” - Marvel Cinematic Universe: จักรวาลภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่
คีย์เวิร์ด: “Marvel Cinematic Universe movies” - Disney Princess: แบรนด์ตัวละครเจ้าหญิง
คีย์เวิร์ด: “Disney Princess characters” - ESPN+: บริการสตรีมมิ่งกีฬา
คีย์เวิร์ด: “ESPN+ sports streaming” - Shanghai Disneyland: สวนสนุก Disney ในประเทศจีน
คีย์เวิร์ด: “Shanghai Disneyland theme park”
ใส่ความเห็น