Key Partners

• บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพ (เช่น BioNTech)
• สถาบันวิจัยและมหาวิทยาลัย
• องค์กรด้านสาธารณสุข (เช่น WHO, CDC)
• บริษัทผู้ผลิตยาและเวชภัณฑ์อื่นๆ

Key Activities

• การวิจัยและพัฒนายาและวัคซีน
• การผลิตยาและวัคซีน
• การขายและการตลาด
• การขึ้นทะเบียนยาและวัคซีนกับหน่วยงานกำกับดูแล

Key Resources

• ทรัพย์สินทางปัญญาและสิทธิบัตร
• โรงงานผลิตและห้องปฏิบัติการ
• บุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ
• เงินทุนสำหรับการวิจัยและพัฒนา

Value Proposition

• ยาและวัคซีนที่มีคุณภาพสูงและปลอดภัย
• นวัตกรรมทางการแพทย์เพื่อรักษาและป้องกันโรค
• การปรับปรุงคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย
• การสนับสนุนระบบสาธารณสุขทั่วโลก

Customer Relationships

• ความสัมพันธ์กับบุคลากรทางการแพทย์
• การให้ข้อมูลและความรู้แก่ผู้ป่วย
• การสนับสนุนด้านการเข้าถึงยาและวัคซีน
• โครงการความรับผิดชอบต่อสังคม

Channels

• การขายผ่านผู้จัดจำหน่ายยาและเวชภัณฑ์
• การขายตรงให้กับโรงพยาบาลและคลินิก
• การขายผ่านร้านขายยา
• การขายให้กับรัฐบาลและองค์กรสาธารณสุข

Customer Segments

• ผู้ป่วย
• บุคลากรทางการแพทย์
• โรงพยาบาลและคลินิก
• บริษัทประกันสุขภาพ
• รัฐบาลและองค์กรสาธารณสุข

Cost Structure

• ค่าใช้จ่ายในการวิจัยและพัฒนา
• ต้นทุนการผลิต
• ค่าใช้จ่ายในการขายและการตลาด
• ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน

Revenue Streams

• การขายยาตามใบสั่งแพทย์
• การขายวัคซีน
• รายได้จากการอนุญาตให้ใช้สิทธิ
• รายได้จากความร่วมมือทางธุรกิจ

การวิเคราะห์ทางการเงินของ Pfizer

ตัวเลขทางการเงินที่สำคัญ

รายได้

• Q2 2024: $13,283 ล้าน (เพิ่มขึ้น 2% จาก Q2 2023)
• H1 2024: $28,162 ล้าน (ลดลง 11% จาก H1 2023)

กำไร/(ขาดทุน)จากการดำเนินงานต่อเนื่อง

• Q2 2024: ($103) ล้าน
• Q2 2023: $2,269 ล้าน
• H1 2024: $3,318 ล้าน
• H1 2023: $8,539 ล้าน

อัตรากำไรขั้นต้น

• Q2 2024: 75.2%
• Q2 2023: 75.1%
• H1 2024: 76.3%
• H1 2023: 74.2%

ROE (อัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น)

• 12 เดือนล่าสุด: 3.6%

การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ

• รายได้จาก Comirnaty ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
• รายได้จาก Paxlovid ลดลงในครึ่งปีแรก แต่เพิ่มขึ้นในไตรมาส 2
• การเติบโตของผลิตภัณฑ์หลักอื่นๆ เช่น Vyndaqel และ Eliquis

การเปรียบเทียบกับอุตสาหกรรม

• อัตรากำไรขั้นต้นของ Pfizer (75.2%) สูงกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม (70%)
• ROE ของ Pfizer (3.6%) ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม (15%)
• อัตราส่วน P/E ของ Pfizer (8.5x) ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม (20x)

แนวโน้มในอนาคต

• คาดว่ารายได้จาก COVID-19 จะลดลงในปี 2024
• มุ่งเน้นการเติบโตของผลิตภัณฑ์หลักที่ไม่เกี่ยวกับ COVID-19
• การลงทุนในการวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
• การปรับโครงสร้างเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ

ต่อไปนี้คือ 10 ผลิตภัณฑ์หลักของ Pfizer พร้อม keyword สำหรับค้นหารูปภาพ:

1. Comirnaty – Keyword: “COVID-19 vaccine vial”
2. Paxlovid – Keyword: “COVID-19 antiviral pills”
3. Eliquis – Keyword: “Blood thinner medication”
4. Prevnar family – Keyword: “Pneumococcal vaccine”
5. Vyndaqel family – Keyword: “ATTR-CM medication”
6. Ibrance – Keyword: “Breast cancer pill”
7. Xtandi – Keyword: “Prostate cancer medication”
8. Nurtec ODT – Keyword: “Migraine relief tablet”
9. Inlyta – Keyword: “Kidney cancer pill”
10. Xeljanz – Keyword: “Rheumatoid arthritis medication”

สุดท้าย ผมจะเขียนสรุปสั้นๆ สำหรับโพสต์ลงเฟซบุ๊กครับ:

สวัสดีครับเพื่อนๆ วันนี้เรามาวิเคราะห์ผลประกอบการของบริษัทยายักษ์ใหญ่อย่าง Pfizer กันหน่อยดีกว่า!

ในไตรมาส 2 ปี 2024 Pfizer มีรายได้รวม $13,283 ล้าน เพิ่มขึ้น 2% จากปีก่อน แต่ถ้ามองครึ่งปีแรก รายได้ลดลง 11% เหตุผลหลักๆ มาจากยอดขาย Comirnaty (วัคซีนโควิด) ที่ลดลงมาก แต่ก็มีข่าวดีคือผลิตภัณฑ์อื่นๆ อย่าง Vyndaqel และ Eliquis ยังเติบโตได้ดี

ที่น่าสนใจคือ Pfizer กำลังปรับตัวครั้งใหญ่ ทั้งลดต้นทุน ปรับโครงสร้าง และมุ่งเน้นการพัฒนายาใหม่ๆ เพื่อทดแทนรายได้จากโควิดที่ลดลง

ใครสนใจเรื่องหุ้นหรือการลงทุน ลองติดตามดูกันได้นะครับว่า Pfizer จะรับมือกับความท้าทายนี้ยังไง และจะกลับมาเติบโตได้อีกครั้งหรือไม่!

#Pfizer #StockMarket #Investing #Pharmaceuticals

การวิเคราะห์ SWOT ของ Pfizer

จุดแข็ง (Strengths)

1. แบรนด์ที่แข็งแกร่งและเป็นที่รู้จักทั่วโลก
2. พอร์ตโฟลิโอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและมีคุณภาพสูง
3. ความสามารถในการวิจัยและพัฒนาที่แข็งแกร่ง
4. เครือข่ายการจัดจำหน่ายทั่วโลก
5. ฐานะทางการเงินที่มั่นคง
6. ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมยาและวัคซีน
7. ความสามารถในการผลิตขนาดใหญ่

จุดอ่อน (Weaknesses)

1. การพึ่งพารายได้จากผลิตภัณฑ์หลักบางตัว
2. ความท้าทายในการรักษาการเติบโตของรายได้หลังจากยอดขายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับ COVID-19 ลดลง
3. ค่าใช้จ่ายในการวิจัยและพัฒนาที่สูง
4. ความเสี่ยงจากการหมดอายุสิทธิบัตรของยาบางตัว
5. โครงสร้างองค์กรขนาดใหญ่อาจทำให้ปรับตัวช้าในบางสถานการณ์

โอกาส (Opportunities)

1. การขยายตัวของตลาดในประเทศกำลังพัฒนา
2. การพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น mRNA และการรักษาแบบ gene therapy
3. การเข้าซื้อกิจการหรือร่วมมือกับบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพที่มีนวัตกรรม
4. การขยายตัวในตลาดยาชีววัตถุคล้ายคลึง (Biosimilars)
5. การพัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับโรคที่ยังไม่มีการรักษาที่มีประสิทธิภาพ
6. การใช้ประโยชน์จากข้อมูลขนาดใหญ่และปัญญาประดิษฐ์ในการวิจัยและพัฒนา

อุปสรรค (Threats)

1. การแข่งขันที่รุนแรงจากบริษัทยาขนาดใหญ่และบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพ
2. แรงกดดันด้านราคาจากรัฐบาลและผู้จ่ายเงิน
3. การเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบและนโยบายด้านสาธารณสุข
4. ความเสี่ยงจากการดำเนินคดีและความรับผิดทางกฎหมาย
5. ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนในตลาดต่างประเทศ
6. ความท้าทายในการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์และการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา
7. ผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่อาจเกิดขึ้น