ครับ! การกำหนดเกณฑ์ในการคัดกรองหุ้นเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้เราได้หุ้นที่ตรงกับสไตล์การลงทุนของเรา มาดูกันว่าเราจะกำหนดเกณฑ์อย่างไรดี

  1. พื้นฐานในการกำหนดเกณฑ์
    • เข้าใจสไตล์การลงทุนของตัวเอง (Value, Growth, Dividend, ฯลฯ)
    • กำหนดเป้าหมายการลงทุน (ระยะสั้น, ระยะยาว)
    • พิจารณาความเสี่ยงที่ยอมรับได้
  2. เกณฑ์ด้านขนาดและสภาพคล่อง
    • มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Cap)
    • ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน
  3. เกณฑ์ด้านผลประกอบการ
    • อัตราการเติบโตของรายได้ (Revenue Growth)
    • อัตราการเติบโตของกำไร (Earnings Growth)
    • อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin)
    • อัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin)
  4. เกณฑ์ด้านความสามารถในการทำกำไร
    • อัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE)
    • อัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ (ROA)
  5. เกณฑ์ด้านราคา
    • อัตราส่วนราคาต่อกำไร (P/E Ratio)
    • อัตราส่วนราคาต่อมูลค่าทางบัญชี (P/BV Ratio)
    • อัตราส่วน PEG (Price/Earnings to Growth)
  6. เกณฑ์ด้านเงินปันผล (สำหรับ Dividend Investing)
    • อัตราเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield)
    • อัตราการจ่ายเงินปันผล (Dividend Payout Ratio)
  7. เกณฑ์ด้านความมั่นคงทางการเงิน
    • อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio)
    • อัตราส่วนสภาพคล่อง (Current Ratio)
  8. เกณฑ์เฉพาะอุตสาหกรรม
    • เช่น อัตราการเข้าพักสำหรับโรงแรม
    • อัตราการใช้กำลังการผลิตสำหรับโรงงาน

ตัวอย่างการกำหนดเกณฑ์สำหรับสไตล์การลงทุนต่างๆ:

  1. Value Investing:
    • P/E < ค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม
    • P/BV < 1.5
    • ROE > 15%
    • D/E < 1
  2. Growth Investing:
    • อัตราการเติบโตของรายได้ > 15% ต่อปี
    • อัตราการเติบโตของกำไร > 20% ต่อปี
    • PEG < 1
  3. Dividend Investing:
    • Dividend Yield > 4%
    • อัตราการจ่ายเงินปันผล < 70%
    • อัตราการเติบโตของเงินปันผล > 5% ต่อปี
    • D/E < 0.5

เคล็ดลับในการกำหนดเกณฑ์:

  1. เริ่มจากเกณฑ์กว้างๆ ก่อน แล้วค่อยๆ ปรับให้เข้มงวดขึ้น
  2. ไม่ควรใช้เกณฑ์มากเกินไป เพราะอาจทำให้พลาดโอกาสดีๆ
  3. ปรับเกณฑ์ตามสภาวะตลาดและเศรษฐกิจ
  4. ทดสอบเกณฑ์กับข้อมูลในอดีตเพื่อดูว่าให้ผลลัพธ์ดีหรือไม่
  5. ไม่ยึดติดกับเกณฑ์มากเกินไป ใช้วิจารณญาณประกอบด้วย

จำไว้นะครับว่า การคัดกรองหุ้นเป็นแค่จุดเริ่มต้น หลังจากได้รายชื่อหุ้นที่ผ่านเกณฑ์แล้ว เราต้องวิเคราะห์แต่ละบริษัทอย่างละเอียดอีกครั้ง ดูปัจจัยเชิงคุณภาพ เช่น โมเดลธุรกิจ การบริหารจัดการ แนวโน้มอุตสาหกรรม ก่อนตัดสินใจลงทุนจริง

การกำหนดเกณฑ์ที่ดีจะช่วยให้เราได้หุ้นที่มีคุณภาพและตรงกับสไตล์การลงทุนของเรา แต่ก็ต้องระวังไม่ให้พลาดโอกาสดีๆ เพราะเกณฑ์ที่เข้มงวดเกินไปด้วยนะครับ

มีคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับการกำหนดเกณฑ์ไหมครับ? หรืออยากให้ยกตัวอย่างเกณฑ์สำหรับสไตล์การลงทุนแบบอื่นๆ ไหมครับ?

By admin

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *