แน่นอนครับ มาเรียนรู้เกี่ยวกับ Benjamin Graham ผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็น “บิดาแห่งการลงทุนแบบเน้นคุณค่า” กันครับ
ประวัติและแนวคิดของ Benjamin Graham: รากฐานของการลงทุนอย่างชาญฉลาด
สวัสดีครับเพื่อนๆ นักลงทุน วันนี้เรามาทำความรู้จักกับ Benjamin Graham ผู้วางรากฐานการลงทุนแบบเน้นคุณค่า (Value Investing) ที่มีอิทธิพลต่อนักลงทุนทั่วโลก รวมถึง Warren Buffett ด้วย
- ประวัติโดยย่อ
- เกิดเมื่อ 9 พฤษภาคม 1894 ในลอนดอน ประเทศอังกฤษ
- ย้ายมาอยู่นิวยอร์กตั้งแต่อายุ 1 ขวบ
- จบการศึกษาจาก Columbia University ด้วยเกียรตินิยมอันดับสอง
- เริ่มทำงานในวอลล์สตรีทตั้งแต่อายุ 20 ปี
- สอนที่ Columbia Business School เป็นเวลากว่า 30 ปี
- เสียชีวิตเมื่อ 21 กันยายน 1976 ที่ฝรั่งเศส
- ผลงานสำคัญ
- หนังสือ “Security Analysis” (1934) เขียนร่วมกับ David Dodd
- หนังสือ “The Intelligent Investor” (1949) ที่ Warren Buffett ยกย่องว่าเป็นหนังสือการลงทุนที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา
- แนวคิดหลักของ Graham
- “Mr. Market”: ตลาดหุ้นเปรียบเสมือนคนที่มีอารมณ์แปรปรวน บางวันอารมณ์ดีก็เสนอราคาสูง บางวันอารมณ์แย่ก็เสนอราคาต่ำ นักลงทุนฉลาดต้องไม่ถูกชักจูงด้วยอารมณ์ของตลาด
- “Margin of Safety”: การลงทุนควรมี “ส่วนเผื่อความปลอดภัย” คือซื้อหุ้นในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงมากๆ เพื่อลดความเสี่ยง
- การแยกแยะระหว่างการลงทุนและการเก็งกำไร: การลงทุนคือการวิเคราะห์อย่างละเอียดเพื่อปกป้องเงินต้นและได้ผลตอบแทนที่น่าพอใจ ส่วนการเก็งกำไรคือการคาดเดาทิศทางตลาด
- การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน: เน้นการศึกษางบการเงิน ประวัติการจ่ายเงินปันผล และคุณภาพของผู้บริหาร
- หลักการลงทุนของ Graham
- ซื้อหุ้นที่มี P/E Ratio ต่ำ
- มองหาหุ้นที่มีราคาต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี
- เน้นบริษัทที่มีประวัติการจ่ายเงินปันผลที่ดี
- กระจายการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยง
- มองหาหุ้นที่มีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนต่ำ
- เน้นบริษัทที่มีกำไรต่อเนื่องในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
- อิทธิพลต่อวงการลงทุน
- สร้างแนวคิด Value Investing ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายจนถึงปัจจุบัน
- เป็นอาจารย์และแรงบันดาลใจของ Warren Buffett
- หลักการของเขาถูกนำไปใช้ในการสร้างกลยุทธ์การลงทุนมากมาย
- แนวคิดของเขาช่วยให้นักลงทุนรายย่อยสามารถแข่งขันกับนักลงทุนสถาบันได้
- บทเรียนสำคัญจาก Graham
- การลงทุนต้องใช้เหตุผล ไม่ใช่อารมณ์
- ราคาและมูลค่าไม่ใช่สิ่งเดียวกัน
- ตลาดในระยะสั้นเป็นเครื่องชั่งคะแนนเสียง แต่ในระยะยาวเป็นเครื่องชั่งน้ำหนัก
- การขาดทุนถาวรสำคัญกว่าการพลาดโอกาสทำกำไร
- นักลงทุนที่แท้จริงต้องมีวินัยและอดทน
สุดท้ายนี้ อยากบอกว่าแนวคิดของ Benjamin Graham ยังคงมีความสำคัญและใช้ได้ดีในปัจจุบัน แม้ว่าโลกการลงทุนจะเปลี่ยนแปลงไปมากก็ตาม
การเข้าใจหลักการของเขาจะช่วยให้เรามีมุมมองที่ลึกซึ้งขึ้นเกี่ยวกับการลงทุน และช่วยให้เราสามารถตัดสินใจได้อย่างมีเหตุผลมากขึ้นในยามที่ตลาดผันผวน
ลองนำแนวคิดของ Graham ไปปรับใช้ดูนะครับ แล้วคุณจะเห็นว่าการลงทุนไม่ใช่เรื่องของโชคหรือการเดา แต่เป็นศาสตร์และศิลป์ที่สามารถเรียนรู้และฝึกฝนได้ครับ!
ใส่ความเห็น